เว็บคาสิโนออนไลน์

วิธีการเล่น ไพ่บาคาร่า ออนไลน์

มาทำความเข้าใจกับจำนวนแต้มของตัวไพ่กันก่อน โดยไพ่ Ace จะมีค่า 1 แต้ม ,ไพ่ 2 จะมีค่า 2 แต้ม ,ไพ่ 3 จะมีค่า 3 แต้ม ,ไพ่ 4 จะมีค่า 4 แต้ม ,ไพ่ 5 จะมีค่า 5 แต้ม ,ไพ่ 6 จะมีค่า 6 แต้ม ,ไพ่ 7 จะมีค่า 7 แต้ม ,ไพ่ 8 จะมีค่า 8 แต้ม ,ไพ่ 9 จะมีค่า 9 แต้ม และไพ่ 10 ,J ,Q ,K จะมีค่า 0 แต้ม และนอกจากที่เราจะต้องรู้แต้มไพ่แล้ว ก็ต้องมาขยายความศัพท์เทคนิค ในการเล่นบาคาร่ากันด้วย ไม่ว่าจะเป็น Banker ที่แปลว่าเจ้ามือหรือดีลเลอร์ Player ที่แปลว่าผู้เล่น ซึ่งตามปกติของบาคาร่า นั้นมักจะมีสองฝั่งให้นักพนันเลือกวางเดิมพันระหว่างฝ่าย Player และ Banker โดยผู้ที่วางเดิมพันทางฝั่งเจ้ามือ (Banker) เมื่อชนะเดิมพันจะถูกหักค่าคอมมิชชั่นจากโต๊ะเป็นเงิน 5% ของรางวัลที่ได้ ในการเล่นบาคาร่าแต่ละเกมนั้นแต่ละฝ่ายจะได้รับแจกไพ่อย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่เกิน 3 ใบ ไพ่บาคาร่าใบแรกกับใบที่สาม จะแจกจากกองให้แก่ฝ่ายผู้เล่น ส่วนใบที่สองกับใบที่สี่แจกให้ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการไพ่ใบที่สาม ก็จะมีเงื่อนไขตามกติกาพิเศษ คือ ทางฝั่งของ Player ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกันได้ต่ำกว่า 5 (0,1,2,3,4,5) ต้องจั่วเพิ่มอีก 1 ใบ แต่ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกันได้ 6 หรือ 7 ไม่ต้องจั่วแล้ว ส่วนทางฝั่งของเจ้ามือ (Banker) นั้น ถ้าแต้มของ Banker ต่ำกว่า 2 แต้ม จั่วเพิ่มทันที 1 ใบ แต่ถ้ามากกว่า 3 แต้มจะมีกฎเข้ามาควบคุมเกี่ยวกับการจั่วไพ่ของ Banker

• 1. BANKER หรือเรียกว่า เจ้ามือ ซึ่งคนไทยจะนิยมเรียกว่า แดง หมายถึง การทายผลว่าแต้มไพ่ฝ่าย แบงค์เกอร์ จะเป็นฝ่ายชนะไป
• 2. PLAYER หรือเรียกว่า ผู้เล่น ซึ่งคนไทยนิยมเรียกว่า น้ำเงิน หมายถึง การทายผลว่าแต้มไพ่ฝ่าย เพลเยอร์ จะเป็นฝ่ายชนะไป
• 3. BANKER PAIR หมายถึง ไพ่คู่เจ้ามือ
• 4. BIG หมายถึง การจั่วไพ่ใบที่สามเพิ่ม ทั้งฝ่ายเจ้ามือและฝ่ายผู้เล่น
• 5. COMMISSION หรือ ค่าต๋ง หมายถึง ถ้าฝ่ายใดทายผลพนันถูกจะต้องถูกหักไปประมาณ 5 เปอร์เซ็น ของเงินทั้งหมด
• 6. DEALER หมายถึง พนักงานแจกไพ่คู่

อ่านเทคนิคเพิ่มเติมได้ที่ แทงบอลเว็บ UFABET